เมนู

ย่อมจะเป็นผู้ทำที่สุดทุกข์ได้ ย่อมบรรลุปรมัตถวิสุทธิได้ เหมือนอย่างที่ตรัส
ไว้ว่า
สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตาติ ยทา ปญฺญาย ปสฺสติ
อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา.
เมื่อใด เห็นด้วยปัญญาว่า ธรรมทั้งปวงเป็น
อนัตตา เมื่อนั้น ย่อมหน่ายในทุกข์ นี้เป็นทางแห่ง
วิสุทธิ
ดังนี้.

พรรณนาปัญหาว่า อะไรเอ่ย ชื่อว่า 3


บัดนี้ พระศาสดาผู้มีจิตอันพระเถระทำให้ทรงยินดีด้วยการพยากรณ์
ปัญหาแม้นี้แล้ว จึงตรัสถามปัญหายิ่งขึ้นไปเหมือนนัยก่อน ๆ ว่า อะไรเอ่ย
ชื่อว่า 3. พระเถระกล่าวซ้ำว่า ตีณิ 3 เมื่อแสดงสังขยาจำนวนที่เหมาะแก่ลิงค์
เพศศัพท์ แห่งความที่พึงพยากรณ์อีก จึงทูลตอบว่า ติสฺโส เวทนา คือ
เวทนา 3. อีกนัยหนึ่ง พระเถระคิดว่า จำเราจะกลับคำว่า ตีณิ ความของ
เวทนาที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า ติสฺโส เวทนา เมื่อแสดงจึงทูลตอบ.
บัณฑิตพึงทราบความในข้อนี้ ดังกล่าวมาฉะนี้. ด้วยว่าเทศนาของเหล่าท่าน
ผู้บรรลุเทศนาอันวิลาศ เพราะความแตกฉานแห่งปฏิสัมภิทา มีกถามุขเป็นอัน
มาก แต่อาจารย์บางพวกกล่าวว่า บทว่า ตีณิ นี้ เป็นบทเกิน. แต่พระเถระ
กล่าวในที่นี้ว่า ติสฺโส เวทนา คือ เวทนา 3 ก็ตามนัยก่อน ๆ นั่นแล
มิใช่กล่าวเพราะไม่มีธรรม 3 อย่างอื่น เหมือนอย่างที่ตรัสไว้ว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในธรรม 3 เหล่านี้ ภิกษุ
เมื่อหน่ายโดยชอบ ฯลฯ ย่อมเป็นผู้ทำที่สุดทุกข์ได้
ในธรรม 3 คือเวทนา 3 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในธรรม